วิธีเช็คคีย์ผลิตภัณฑ์ Microsoft Windows ว่าเป็นของแท้หรือไม่
ปัจจุบันมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Microsoft Windows และ Microsoft Office กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็มีหลายคนที่แอบนำของปลอมมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่ไม่รู้วิธีการเช็คสินค้าที่ถูกต้อง ทำให้โดนหลอกและพอนำไปใช้งาน แล้วเกิดกรณีโดนตรวจลิขสิทธิ์ขึ้นมา ทำให้ตรวจไม่ผ่าน นอกจากจะเสียเงินซื้อผลิตภัณฑ์ของปลอมมาแล้ว ยังต้องมาเสียค่าปรับเพิ่มอีก
วันนี้ทางร้าน Microcommon จะมาบอกถึงวิธีการในการตรวจเช็คผลิตภัณฑ์สินค้าว่าแบบไหนคือของแท้ที่รองรับการตรวจลิขสิทธิ์ รวมถึงการตรวจลิขสิทธิ์สำหรับเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ร้านค้า ห้างร้าน จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหน
มาเริ่มกันที่ผลิตภัณฑ์ตัว Microsoft Windows นั้นมีกี่ชนิด กี่แบบกัน ?
ถ้าแบ่งแยกในการใช้งานในทีนี้ทาง Microsoft จะแบ่งออกเป็นรุ่นๆ ได้แก่
– Home, Professional, IoT Enterprise และรุ่นอื่นๆตามประเภทการใช้งาน
สำหรับตัวคีย์วินโดว์นั้นจะมีด้วยกันหลายรูปแบบที่จะแตกต่างกันออกไปในการใช้งาน ได้แก่
1. MSDN (Microsoft Developer Network)
– เป็นคีย์ผลิตภัณฑ์ที่ทาง Microsoft ทำออกมาแจกจ่ายให้กับนักพัฒนาโปรแกรมต่างๆได้ทดลองใช้งานกัน โดยจะเป็นคีย์ที่มีอายุการใช้งานจำกัดและสามารถถูกทาง Microsoft ปิดการใช้งานหรือ Deactivate เมื่อไหร่ก็ได้
2. Dreamspark
– เป็นคีย์ผลิตภัณฑ์ที่ทาง Microsoft ทำออกมาแจกจ่ายให้สถาบันการศึกษาต่างๆให้นักเรียนได้ทดลองใช้งานกัน โดยจะมีอายุเฉลี่ยตั้งแต่ 3 เดือน – 2 ปีหรือมากกว่านั้น
3. OEM
– เป็นคีย์ผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งฝังมากับเครื่องคอมพิวเตอร์จากโรงงานและมีจำหน่ายแยกเป็นกล่องซองขาวพร้อมแผ่น DVD โดยคีย์ OEM นั้น เมื่อเราทำการ Activate แล้ว ตัว Key จะทำการฝังไปยังเมนบอร์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ ส่วนนี้เราสามารถเปลี่ยน Harddisk, Ram, CPU, GPU ได้ทั้งหมดยกเว้น Mainboard
4. FPP
– เป็นคีย์ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในรูปแบบกล่องพร้อม USB Flashdrive สำหรับการติดตั้ง โดยคีย์ FPP นั้นจะรองรับการย้ายเครื่อง (เปลี่ยนเมนบอร์ด)
5. Open / Volume License
– เป็นคีย์ผลิตภัณฑ์ที่ต้องนำชื่อบริษัทของเราไปทำการผูกกับทาง Microsoft โดยตรง โดยมีการซื้อขั้นต่ำที่ 5 Licenses โดยตัวผลิตภัณฑ์จะเป็นเพียง Key เท่านั้น เช่นเราทำการสั่งซื้อ 5 Licenses ก็จะได้ Key มาแบบ 1 Key ที่รองรับการ Activate ได้ 5 เครื่องคอมพิวเตอร์
จากประเภททั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นจึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่น
– Windows 10 Pro MSDN, Windows 10 Pro MSDK, Windows 10 Pro OEM, Windows 10 Pro FPP, Windows 10 Pro Open License เป็นต้น
ทีนี้ผลิตภัณฑ์ไหนบ้าง ที่จะรองรับการตรวจลิขสิทธิ์ในการใช้งานเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ห้างร้าน ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเกม ธนาคาร สำนักงานราชการต่างๆ
– สำหรับเงื่อนการตรวจลิขสิทธิ์นั้นจะประกอบไปด้วย
1. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานจะต้องเป็นแบบ OEM, FPP หรือ Open/Volume License เท่านั้น
2. สำหรับผลิตภัณฑ์ OEM และ FPP จะต้องมีกล่องพร้อมทั้ง Sticker License ประกอบครบทั้งหมด
3. Key บน Sticker License นั้นจะต้องตรงกับที่เราใช้ Activate ในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ
จากความรู้เบื้องต้นที่ได้กล่าวไปทั้งหมด ท่านผู้อ่านคงพอจะทราบกันแล้วว่าเราจะต้องใช้ License รูปแบบไหน ใช้ผลิตภัณฑ์ยังไง
ต่อไปที่จะพูดถึงคือปัจจุบันมีหลายร้านที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของปลอม! ห๊ะ? ของปลอมเป็นยังไง เช่น
จากรูปจะเห็นว่าสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์ OEM แต่พอเอาไปเช็คผลที่ได้คือเป็นคีย์ประเภท MSDN
ทีนี้สำหรับหลายๆท่านที่ยังไม่รู้เราจะบอกถึงวิธีการเช็คคีย์ผลิตภัณฑ์กัน
1. ให้ท่านดาวน์โหลดโปรแกรม Microsoft PID Checker จากลิงค์นี้ : https://appnee.com/pidkey/
– Microsoft PID Checker เป็นโปรแกรมที่เอาไว้สำหรับตรวจ License Key ว่าเป็นประเภทไหน
2. จากนั้นให้ทำการใส่ Key ผลิตภัณฑ์ลงไป
3. จากภาพหลายคนอาจจะงงว่าทั้ง 4 Key ตรง Description แสดงก็เป็น Win 10 RTM Professional Retail เหมือนกันหมด แล้วเราจะรู้ความแตกต่างได้ยังไง ?
3.1 ให้สังเกตุตรง “Sub Type” จุดนี้จะเป็นจุดที่บ่งบอกว่าคีย์แต่ละอันนั้นเป็น MSDN, Dreamspark หรือ FPP
3.2 โดยจะขออ้างอิงบทสนทนาที่คุยกับทางเจ้าหน้าที่ Microsoft ที่ทางเรารบกวนช่วยตรวจสอบคีย์ผลิตภัณฑ์ดังภาพต่อไปนี้
3.3 ทำให้สรุปได้ว่า
รหัส X19-98843 เป็นคีย์ประเภท MSDN
รหัส X19-98845 เป็นคีย์ประเภท Dreamspark
รหัส X19-98841 เป็นคีย์ประเภท FPP แท้
รหัส X19-98853 เป็นคีย์ประเภท FPP แท้
คำถามเพิ่มเติมจากลูกค้า
สำหรับ OEM หลายคนมีคำถามเข้ามาว่า ถ้าเรายังไม่ขูดหรือยังไม่เห็นคีย์ พอจะมีวิธีเช็คยังไงบ้าง?
– ให้ดูที่เลข COA Barcode ที่หน้ากล่อง ถ้าเป็น OEM รหัสจะขึ้นต้นด้วย 03305, 03306, 03307, 03425 และอื่นๆที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
– แต่ถ้าขึ้นต้นด้วย 03308 อันนี้จะเป็น Dreamspark/MSDN
– Update! 11-02-2020 : ปัจจุบันของปลอมกำลังระบาดทั้งแบบ COA แบบกล่อง แบบกล่อง USB อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : รออัพเดท
กรณีไม่ได้ใช้งานเชิงพาณิชย์ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์แค่แบบคีย์ได้ไหม
– แนะนำว่าควรใช้แบบ Sticker License OEM เพราะจะมีสติ๊กเกอร์แปะที่เครื่องของเรา เวลาเดินทางออกต่างประเทศจะสะดวกสบายไม่ต้องกังวลเรื่องวินโดว์ผิดลิขสิทธิ์
– ถ้างบจำกัดจริงๆ แนะนำให้ใช้เป็นคีย์แบบ OEM เท่านั้น และ Volume เพราะจะปลอดภัยต่อการโดน Deactivate
ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ Microsoft ที่ช่วยให้ความรู้ในการตรวจสอบคีย์ผลิตภัณฑ์มา ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับใครที่มีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์
สามารถติดต่อบริษัทผ่านทาง Line Official : @Microcommon ได้ตลอดเวลา
